ฉีดโบท็อกซ์ เมโสแฟตลดแก้ม และตัดไขมันกระพุ้งแก้ม คนหน้าบานกลมแก้มเยอะ อยากปรับรูปหน้าใช้เทคนิคไหนดี วันนี้อ๊อฟฟี่ เชียงใหม่คลินิกไกด์ มาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ จ้า ต้องขอแจ้งก่อนว่า อ๊อฟฟี่ไม่ใช่แพทย์นะคะ ข้อมูลเหล่านี่ได้มาจากประสบการณ์ที่พาผู้สนใจไปปรึกษาแพทย์มาเยอะ และได้ฟังหมออธิบายมาหลายคน เลยอยากหยิบมาเล่าสู่กันฟัง สำหรับคนที่ยังสับสนลังเลในการเลือกว่าจะใช้เทคนิคไหนดี
เริ่มจากก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าปัญหาหลักของคุณคืออะไร อยู่ที่ตำแหน่งไหน เมื่อเปรียบเทียบกับภาพ
- หน้าโดยรวมดูบานและกลมไปหมด
- บริเวณแก้มมีเนื้อเยอะเหมือนคนอมลูกอมตลอดเวลา (บริเวณที่ 1)
- มีกรามที่โตเพราะมีมัดกล้ามเนื้อที่เกิดจากการเคี้ยวบ่อยๆ(บริเวณที่ 2)
- มีเหนียงห้อยย้อย หรือมีแฟตมากบริเวณใต้คาง(บริเวณที่ 3)
เมื่อเราทราบปัญหาหลักของเราแล้วที่นี่จะสามารถประเมินได้ว่าจะเลือกเทคนิคไหนที่จะเหมาะสมกับการแก้ปัญหาของเรา ขอบอกก่อนว่าทั้ง 3 เทคนิค วิธีฉีดโบท็อกซ์ เมโสแฟตลดแก้ม และตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ไม่ใช่เลือกใช้แทนกันได้ แต่ใช้สนับสนุนในการแก้ปัญหาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนะคะ
ปัญหาบริเวณที่ 1 ต้องประเมินว่ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มากสามารถใช้วิธีฉีดแฟตลดแก้มได้ แต่ถ้าแก้มเยอะเหมือนคนอมลูกอมตลอดเวลาเนื่องจากมีไขมันเยอะ แนะนำให้ตัดไขมันกระพุ้งแก้มจะเห็นผลชัดเจนกว่า
ปัญหาบริเวณที่ 2 เป็นบริเวณกราม ส่วนนี้จะมีมัดกล้ามเนื้ออยู่ ถ้าใครที่ชอบเคี้ยวของแข็งๆบ่อยๆ เช่น ข้าวเหนียว อาหารประเภทเนื้อ หรือชอบเคียวหมากฝรั่ง จะทำให้เกิดมัดกล้ามเนื้อหดเป็นก้อน จนทำให้เหมือนมีกรามใหญ่ จึงต้องใช้เทคนิคฉีดโบท็อกซ์เพื่อคลายมัดกล้ามเนื้อลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
ปัญหาบริเวณที่ 3 จะอยู่ใต้คางที่เรียกว่าเหนียง ถ้ามีมากบริเวณนี้แนะนำให้ใช้วิธีฉีดเมโสแฟตลดเหนียงได้ แต่จะเห็นผลมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่ตัวยาที่เลือกใช้ เทคนิคการฉีดของแพทย์ และระยะเวลาเห็นผลก็ขึ้นอยู่กับระบบเผาพลานของร่างกายแต่ละบุคคลเป็นหลักด้วย
ปัญหาทุกจุดโดยรวม ดูแล้วหน้าบาน กลม อยากปรับให้หน้าดูเรียว อาจจะต้องใช้ทั้ง 3 เทคนิคแก้ปัญหาทุกจุด เริ่มจากตัดไขมันกระพุ่งแก้มก่อน พอแผลหายดีเรียบร้อย หลังจากนั้นทำการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ลิฟท์กรอบหน้า และตามด้วยการฉีดเมโสแฟตบริเวณที่ยังมีไขมันทั้ง 3 จุด
สนใจปรึกษาเพิ่มเติมกับอ๊อฟฟี่โดยตรงติดต่อ
Tel : 087-1994971
LineID : @jng5854c
